บทความ นิทานพื้นบ้าน สะท้านสังคมไทย

  เคยได้ยินไหม..นิทานพื้นเมืองเหนือเรื่อง เพื่อนเกลอกินข้าวกับน้ำพริก..?”
   เพื่อนขมุกับเพื่อนคนเมือง ไปป่าเพื่อหาของป่ามาขาย
ทั้งสองได้ห่อกับข้าวเพื่อเป็นอาหารกลางวัน และจะนำไปทานในป่าด้วยกัน....!!!
Cr.ขอขอบคุณผู้วาดการ์ตูนล้อการเมืองภาพนี้...


           เพื่อนขมุ ห่อข้าวกับ น้ำพริกปลาร้าหรือคนเหนือเรียก    น้ำพริกฮ้าส่วนเพื่อนคนเมือง ห่อข้าวกับ น้ำพริกขิง พอได้เวลาจะทานข้าวกลางวันกันเลยเอาข้าวมานั่งร่วมวงจะทานข้าวด้วยกัน สำหรับบุคคลใดถ้าเคยได้ยิน ขมุพูดภาษาพื้นเมืองเหนือแล้ว สำเนียงขมุจะเพี้ยนๆ ไปสักหน่อยนะ!!!
เพื่อนคนเมือง : มะมากิ๋นข้าวกั๋นได้แล้ว
เพื่อนขมุ : อันนี้น้ำพริกคิ๊ง อันนี้น้ำพริกฮ้า.. (สำเนียงขมุจะเพี้ยนๆ ไปสักหน่อย)
เพื่อนคนเมือง : บ่ของคิงของฮาละ กิ๋นโตยกั๋นเนี้ยแหล๊ะ
เพื่อนขมุ : บ่ใจ่นา อันนี้น้ำพริกคิ๊ง อันนี้น้ำพริกฮ้า..
เพื่อนคนเมือง : เอ ฮาว่าบ่ต้องของคิงบ่ต้องของฮาละ กิ๋นโตยกั๋นเนี้ย
เพื่อนขมุ : โอ๋ย บ่ใจ่นา ฮาว่า อันนี้น้ำพริกคิ๊ง อันนี้น้ำพริกฮ้า..?
เพื่อนคนเมือง : บ่ต้องของคิงของฮา กิ๋นโตยกั๋น !!! (เริ่มหงุดหงิด)
เพื่อนขมุ : บ่ใจ่ๆ นา ฮาว่า อันนี้น้ำพริกคิ๊ง อันนี้น้ำพริกฮ้า..??
เพื่อนคนเมือง : จะกิ๋นกาว่าบ่กิ๋น หยั่งอั้นตี๋กั๋นบ๋..???
เพื่อนขมุ : อันนี้น้ำพริกคิ๊ง อันนี้น้ำพริกฮ้า..!!!
เพื่อนคนเมือง : อั้นบ๋..???....
**เสียงดังป๊าบ..!!!  ตุ๊บตั่บๆๆๆๆ %$#&^%%#@%^!@^^%&^^%*^$...
      *เพื่อนคนเมืองก็เลยชกต่อยกับเพื่อนขมุ...เพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง เป็นอันว่าห่อข้าวกระจัดกระจายเลอะเทอะไปหมด เลยไม่ได้กินข้าวกลางวันกัน แต่กินกำปั้นและเพลงเตะเพลงต่อยกันพลันละวันเลย...
      ความจริงเพื่อนขมุจะบอกว่า อันนั้นน้ำพริกขิง อันนี้น้ำพริกปลาร้าภาษาที่ต่างสำเนียงกัน ก็ทำให้เกิดเรื่องได้เหมือนกันนะนั่น พูดคนละเรื่องเดียวกัน 555+
      หากจะนำมาเปรียบเทียบกับยุคสมัยปัจจุบันโดยเฉพาะสังคมไทย ในตอนนี้จะเห็นได้ว่า สีแดง กับ สีเหลือง หรือ ไพร่กับ อำมาตย์หรือใครจะเปรียบเทียบอย่างไรก็ตามแต่ สังคมไทยตอนนี้ยังสับสนและคุยกันคนละเรื่อง แม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน หากแต่เข้าใจคนละแบบ คนละเงื่อนไข
      อาจเพราะการถือตัวถือตน ยึดมั่นถือมั่น หลงคิดว่าตัวเองถูก โดยไม่ได้มอง หรือยอมรับความคิดคนอื่น ฯลฯ
      ยากนักจะทำให้คนทุกคนเข้าใจในเรื่องเดียวกัน และมองในมิติที่ถูกต้อง เหมาะสม ร่วมกัน
แม้จะภาษาเดียวกันยังยากจะอธิบาย แล้วถ้าหากต่างภาษาแล้วไซร้.. อะไรจะเกิดขึ้นหนอ..???”
       จงระวังให้ดีเถิด...อีกไม่ถึง 3 ปี (2558 ประชาคมอาเซียนกำลังก่อตัวขึ้นแล้ว) เจ้านายที่แท้จริงของเราอาจไม่ใช่ คนไทยแท้ๆ ก็เป็นได้... เหอะๆๆๆ >>>>>