เพื่อชำระจิตใจ มวลมนุษยชาติให้รู้สึกระงับสงบ สู่ความสุขที่เที่ยงแท้ เป็นคุณธรรมสำหรับฆราวาส หรือบุคคลผู้ครองเรือน หรือบุคคลธรรมดาเช่นเราท่านทั้งหลายที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ โดยธรรมะหรือหลักธรรมชาติที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ และศึกษาในแก่นแท้ เพื่อให้คฤหัสถ์ ประชาชน หรือผู้คนทั่วไป ได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน (Virtues for a good household life, Virtues for lay people) หลักฆราวาสธรรม 4 อันประกอบไปด้วย :
1. สัจจะ หมายถึง ความจริง ซื่อตรง ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดจริง ทำจริง (Truth and honesty)
2. ทมะ หมายถึง การฝึกฝน การข่มใจ ฝึกนิสัย ปรับตัว รู้จักควบคุมจิตใจ ฝึกหัดดัดนิสัย แก้ไขข้อบกพร่อง ปรับปรุงตนให้เจริญก้าวหน้าด้วยสติปัญญา (Taming and training oneself, adjustment)
3. ขันติ หมายถึง ความอดทน ตั้งหน้าทำหน้าที่การงานด้วยความขยันหมั่นเพียร เข้มแข็ง ทนทาน ไม่หวั่นไหว มั่นในจุดหมาย ไม่ท้อถอย (Tolerance, forbearance)
4. จาคะ หมายถึง ความเสียสละ สละกิเลส สละความสุขสบายและผลประโยชน์ส่วนตนได้ ใจกว้าง พร้อมที่จะรับฟังความทุกข์ ความคิดเห็น และความต้องการของผู้อื่น พร้อมที่จะร่วมมือ ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่คับแคบเห็นแก่ตนหรือเอาแต่ใจตัว (Liberality, generosity)
ในธรรมหมวดนี้
ทมะท่านมุ่งเอาด้านปัญญา ขันติท่านเน้นแง่วิริยะ
ดังนั้น หากบุคคลใดสามารถนำเอาธรรมะ หรือหลักปฏิบัติฆราวาสธรรม 4 ประการนี้ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ย่อมทำให้เป็นผู้สำเร็จ เป็นผู้สงบ เป็นผู้มีความสุข ทำให้เป็นผู้ไม่คิดเบียดใคร เป็นผู้มีเมตตาธรรม เป็นผู้คว่ำมือ หรือเรียกว่า "มือบน" อันหมายถึง การเป็นผู้ให้ ด้วยเหตุเหล่านี้ย่อมมีแต่คนรัก คนชอบใจ และมีแต่กัลยาณมิตร และดำรงตนอยู่ได้ในสังคมอย่างบริบูรณ์
